การเคลือบ
By - admin

การเคลือบ งานพิมพ์มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะสำหรับงานอะไร?

การเคลือบ (Coating Method) ในยุคการพิมพ์ถูกพัฒนามากขึ้น อย่างก้าวกระโดด จนทำให้มีสื่อสิ่งพิมพ์มากมายถูกผลิตขึ้น มาในรูปแบบต่างๆ ที่เราไม่เคยเห็น หรือ มีรูปทรงใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร โดยการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามาช่วยในส่วนของงานออกแบบ ดีไซน์ และการผลิตจึงทำให้ผู้ประกอบการ ผู้บริโภคสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ออกมาในแต่ละครั้งนั้น สามารถแบ่งประเภทของการใช้งานออกไปได้หลากหลายชนิด อาทิเช่น สื่อที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ โฆษณา หรือ ให้ความรู้อย่างใบปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ ไวนิล หรือ ป้ายบิลบอร์ด และ ก็จะมีสิ่งพิมพ์อีกประเภทที่ใช้สำหรับในการทำธุรกิจ หรือ ทำการตลาด เพื่อหาผลประกอบการ อย่างแพ็คเกจจิ้ง บรรจุภัณฑ์ ที่เราเห็นได้จากการนำไปบรรจุใส่สินค้าประเภทต่างๆ

การเคลือบ

เทคนิค การเคลือบแบบ laminate

การเคลือบ laminate หรืออีกชื่อที่เรารู้จักอย่างการเคลือบ PVC เป็นการพิมพ์ที่นำเอาแผ่นฟิล์มชนิดต่างๆ มาวางบนชิ้นงานแล้วใช้ความร้อน เพื่อให้ฟิล์มยึดติดกับพื้นผิวของวัสดุ ซึ่งการเคลือบแบบ laminate นี้จะสามารถทำได้อยู่ 2 ประเภท คือ เคลือบเงา (Glossy) และเคลือบด้าน (Matte) โดยเทคนิคทั้งสองแบบนี้ จะเหมาะกับสิ่งพิมพ์ประเภทแพ็คเกจจิ้งกล่อง ซอง ปกนิตยสาร สื่องานเพื่อการโฆษณา และ อื่นๆ อีกมากมาย

เทคนิค การเคลือบแบบ UV

การเคลือบ UV เป็นการนำเอาน้ำมัน UV มาเคลือบ และอาบไปยังพื้นผิวของงานพิมพ์ในขนาดที่มีความบางเป็นอย่างมาก จนอาจจะมองไม่เห็นซึ่งก็จะเป็นข้อดี ทำให้สีของงานพิมพ์ไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่ออกแบบไว้เทคนิค งานเคลือบแบบนี้สามารถทำได้ 2 ประเภท ในแบบเคลือบเงา และ เคลือบด้าน โดยงานพิมพ์ที่เหมาะกับการเคลือบแบบนี้ จะมีสิ่งพิมพ์จำพวกกล่องแพ็คเกจจิ้ง โปสเตอร์ โบว์ชัวร์ ใบปลิว เป็นต้น

เทคนิค การเคลือบแบบ วานิช

การเคลือบวานิช คือ งานพิมพ์ที่ใช้น้ำมันวานิช ( ตามชื่อของศัทพ์เทคนิค ) ซึ่งกระบวนการผลิตจะต้องนำเอาน้ำมันราดลงไปยังรางของหมึกพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์ จากนั้นก็จะปล่อยให้น้ำมันไหลลงไปเคลือบยังพื้นผิวของแบบจะเกิดความเงาขึ้นมานั้นเอง ซึ่งข้อดีของการเคลือบในลักษณะนี้จะช่วยป้องกันให้หมึกพิมพ์ และ พื้นผิวของแบบจะไม่เกิดการเสียดสี และ จะทำให้เพิ่มความเงางามมากกว่าปกติ งานที่เหมาะกับเทคนิคแบบนี้ ก็จะมีงานพิมพ์ประเภทกล่องบรรจุภัณฑ์ หนังสือ นามบัตร

  • การเคลือบวานิชเงา ( glossy coating ) เป็นการเคลือบผิวกระดาษ เพื่อปัองกันการขัดถู และเสียดสีรวมทั้งให้เกิดความเงา เพราะตัววานิชที่ใช้ไปเพิ่มค่าการสะท้อนแสงที่มาตกกระทบบนชิ้นงาน เกิดการสะท้อนแสงใส่ตาเวลามองมากขึ้น ค่าความเงาก็มากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังจัดเป็นการเคลือบที่ให้ความเงาไม่สูงมาก
  • การเคลือบวานิชด้าน ( matt coating ) เป็นการเคลือบผิวกระดาษ เพื่อปัองกันการขัดถู และ เสียดสีด้วยวานิชที่มีคุณสมบัติแห้งตัวแล้วลดการสะท้อนแสง ที่ตกกระทบบนงานพิมพ์ทำให้เกิดความเงาลดลง แต่ในปัจจุบันงานบรรจุภัณฑ์บางประเภทใช้การเคลือบรูปแบบนี้เพื่อให้ดูชิ้นงานดูราคาแพงขึ้น

เทคนิค การเคลือบฟอยล์

การเคลือบแบบฟอยล์ (Foil / Hot Stamping) ซึ่งเทคนิคแบบนี้ จะนิยมใช้เพื่อเป็นการเพิ่มความหรูหราให้กับงานพิมพ์เทคนิคนี้ จะเป็นการนำฟอยล์มาเคลือบร้อนบนตัวงาน มีให้เลือกตั้งแต่ฟอยล์ทอง ฟอยล์เงิน และ ฟอยล์สีต่างๆ เช่น แดง เหลือง ม่วง น้ำเงิน เทา เขียว ซึ่งแต่ละสี เมื่อนำไปเคลือบบนพื้นผิวของงานแล้วก็จะช่วยเพิ่มความสวยงาม ทำให้ดูหรูหรา และสามารถเน้นจุดที่ต้องการให้เป็นที่น่าสนใจได้อีกด้วย และ งานพิมพ์ที่เหมาะกับการเคลือบชนิดนี้จะเป็นสิ่งพิมพ์ประเภทกล่อง แพ็คเกจจิ้ง ซอง ใบปลิว ถุงกระดาษ เป็นต้น

การเคลือบ

ตัวอย่างงาน เคลือบแบบฟอยล์ (Foil/Hot Stamping)

เทคนิค การเคลือบพลาสติก

การเคลือบพลาสติก ( OPP Film Laminating ) คือ การเคลือบผิวกระดาษด้วยแผ่นฟิล์มพลาสติก ประเภทโอพีพี ทำให้กระดาษมีความเหนียวฉีกไม่ขาด และ สามารถกันน้ำได้ จุดเด่นของการเคลือบพลาสติก คือ ความเรียบ และความเงาของชิ้นงานที่สูงกว่าการเคลือบยูวี จึงเหมาะกับงานที่ต้องการความทนทาน และ ความเงามากขึ้น แต่มีต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่า

  • การเคลือบพลาสติก แบบเงา ( Glossy OPP Film Laminating ) เป็นการเคลือบพลาสติก โดยการใช้ฟิล์มที่มีผิวมันวาว สร้างความเรียบของพื้นผิว และ เพิ่มความเงาในระดับสูง
  • การเคลือบพลาสติก แบบด้าน ( Matt OPP Film Laminating ) เป็นการเคลือบพลาสติก โดยการใช้ฟิล์มที่มีผิวด้านหน้ามีความขุ่น และ ด้านแสงส่องผ่านได้ยาก ใช้ในการสร้างชิ้นงาน ที่ต้องการลดความเงาของผิวกระดาษ นิยมใช้เพื่อเพิ่มมิติพื้นผิวสัมผัสของชิ้นงาน
การเคลือบ

ตัวอย่างงาน เคลือบแบบพลาสติก แบบเงา และ เคลือบพลาสติก แบบด้าน

ใส่ความเห็น

Your email address will not be published.
*
*